หลายๆคนคงมีข้อสังสัยกับการทำงานในบริษัทเล็กๆว่าสบายจริงไหม ความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ต้องมีทั้งหนักและเบาปะปนกันไป ในบริษัทเล็กๆอาจจะมองว่าดูไม่กว้างเท่าไรก็คงคิดกันว่าน่าจะสบายกว่าบริษัทใหญ่ๆแน่นอน ตอบได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องจริง ยิ่งที่ทำงานเล็กเท่าไรคนงานก็ต้องน้อยตามไปด้วยแต่ไม่ใช่ว่าคนงานน้อยแล้วงานจะน้อยตาม ใครจะไปรู้พนักงานบริษัทเล็กๆเหนื่อยแค่ไหนเพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา ยิ่งพนักงานน้อยแล้ว หน้าที่ความรับผิดชอบก็ต้องมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเป็นงานที่ต้องทำยอดยิ่งต้องเหนื่อยกว่า แต่ก็ใช่ว่าจะเหนื่อยจนไม่มีเวลาพักผ่อน ทุกๆงานไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ต้องมีช่วงเวลาที่งานรีบและจะต้องมีช่วงเวลาที่รีแล็คเช่นกัน ถ้าพูดถึงความสบายก็คงจะสบายในช่วงที่งานไม่เยอะมากกว่า
ส่วนมากพนักงานบริษัทเล็กๆงานจะรัดตัวเป็นพิเศษแต่ถ้าเทียบกับเงินเดือนที่ได้แล้ว บางบริษัทให้มากกว่า ที่ทำงานใหญ่ๆก็มี เมื่อเรามาทำงานแล้วก็ไม่ควรถามหาความสบายเพราะงานก็คือเงิน ยิ่งเหนื่อยมากยิ่งได้ประสบการณ์มาก แถมความขยันของเราเองที่ทำให้ประสบความสำเร็จ สังเกตุได้ว่าพนักงานบริษัทเล็กๆมักจะดูหรูหรา มีรถ มีบ้าน สาเหตุที่เป็นแบบนี้กันส่วนมากก็เพราะว่า หัวหน้างานในบริษัทมักจะดูที่ความขยันเพื่อเพิ่มเงินเดือนให้หรืออาจมีโบนัสเบี้ยขยันตามมาเป็นผลตอบแทน งานเยอะคนน้อยแต่ผลงานออกมาดีบริษัทก็ได้กำไรเยอะ และสามารถเพิ่มเงินให้เร็วขึ้นจึงทำให้พนักงานนั้นมีเงินเก็บไว แต่ไม่ว่าจะเป็นงานที่ไหนถ้าหากเราขยันตั้งใจทำ เมื่อหัวหน้าเห็นความดี เงินเก็บก็จะมากขึ้น ดังนั้น งานสบายไม่มีในโลกหรอก มัทั้งเครียด ทั้งสนุก ปะปนกันไป เป็นสีสันของชีวิตคนทำงาน
ข้อดีของการทำงานในที่เล็กๆ
ความรักความผูกพันที่มีต่อบริษัทและเพื่อนร่วมงาน ความเป็นพี่เป็นน้อง จะมีมากกว่าการทำงานในบริษัทใหญ่ เพราะคนทำน้อยก็มีความเข้าใจกันมากขึ้น คุยกันได้สบายๆ ไม่ต้องไปสนใจคำพูดใคร ลองสังเกตดูว่าพนักงานแต่ละคนจะสนิทกันมาก ไม่ว่าจะเวลากินข้าวหรือเวลาทำงาน ก็จะคอยถามปัญหาและคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอด
ข้อเสียของบริษัทเล็ก
งานจะค่อนข้างรัดตัว ต้องรีบเร่งทำแข่งกับเวลาเพราะคนงานน้อย ซึ่งเป็นปัญหาหลักๆที่พบเจอเป็นส่วนมาก ทำให้เกิดความเครียด ความกังวล กลัวงานเสร็จไม่ทันเวลา บางที่ถึงกับต้องทำล่วงเวลาเพื่อให้งานเสร็จเลยก็มี บางทีก็อาจทำให้หงุดหงิดบ้าง